ขั้นตอน




           ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์    มีขั้นตอนการทำดังนี้
              1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
              2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
              3. จัดทำ เค้าโครงของโครงงาน 
              4. การลงมือทำโครงงาน 
              5. การเขียนรายงาน 
              6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน

              1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
                      โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่าง ๆ กัน ดังนี้
                      1)  การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่างๆ
                      2)  การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
                      3)  การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
                      4)  กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
                      5)  งานอดิเรกของนักเรียน
                      6)  การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
                      ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนา มาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
                      1)  ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
                      2)  สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
                      3)  มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
                      4)  มีเวลาเพียงพอ
                      5)  มีงบประมาณเพียงพอ
                      6)  มีความปลอดภัย
              2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
                     การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิจะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดา เนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า
                    1. จะทำ อะไร
                    2. ทำไมต้องทำ
                    3. ต้องการให้เกิดอะไร
                    4. ทำอย่างไร
                    5. ใช้ทรัพยากรอะไร
                    6. ทำกับใคร
                    7. เสนอผลอย่างไร
              3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน
 
รายงาน
รายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อผู้จัดทำโครงงาน  
ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม
ก็ได้
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครู-อาจารย์ผู้ทำ หน้าที่เป็นที่ปรึกษา ควบคุมการทำ
โครงงานของ นักเรียน
ระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาการดำ เนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
แนวคิด ที่มาและความสำคัญ
สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวัง
ที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์
สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิง
กระบวนการ และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎีที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
วิธีดำ เนินงาน
 กิจกรรมหรือขั้นตอนการดำเนินงาน เครื่องมือ
วัสดุอุปกรณ์ สถานที่และงบประมาณ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน เวลา และกิจกรรมดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น
จนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต 
กระบวนการ และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิง
สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นำมาใช้ใน
การดำเนินงาน



              4. การลงมือทำโครงงาน 
                      เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นขอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
                       การเตรียมการ 
                              ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้ มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สา หรับบันทึกการทำ กิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างทำ โครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ ที่พบ
                      การลงมือพัฒนา
                            1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำ ให้ผลงานดีขึ้น
                            2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญ ๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
                            3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
                      การทดสอบผลงานและแก้ไข
                           การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
                      การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
                          เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้วให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุมเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วยเพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว  ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
                      แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
                         เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญหรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษา และ/หรือ ใช้ประโยชน์ต่อไปได้
              5. การเขียนรายงาน
                      การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงาน นักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เหล่านี้
                      ส่วนนำ
                          ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
                               1. ชื่อโครงงาน
                               2. ชื่อผู้ทำโครงงาน
                               3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
                               4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงานสำเร็จ
                               5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ

                      บทนำ
                           บทนำ   เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
                               1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
                               2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
                               3. ขอบเขตของโครงงาน
                      หลักการและทฤษฎี
                           หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎีหรือวิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
                      วิธีดำเนินการ
                           วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน
                      ผลการศึกษา
                           ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
                      สรุปผลและข้อเสนอแนะ
                           สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำ งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรค์ของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำ โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย
                      ประโยชน์
                           ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน  ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
                      บรรณานุกรม
                           บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่าง ๆ ที่ผู้ทำ โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
                   การจัดทำคู่มือการใช้งาน
                      หากโครงงานที่นักเรียนจัดทำ เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
                     1)  ชื่อผลงาน                     2)  ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
                     3)  ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์
                    4)  คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำ หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
                    5)  วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำงานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
              6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
                       การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเทและเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น  การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบ  การรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม  การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
                      1)  ชื่อโครงงาน
                      2)  ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
                      3)  ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
                      4)  คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
                      5)  วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
                      6)  การสาธิตผลงาน
                      7)  ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.krujintana.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น